Gallery
โครงสร้างบริษัท
การประกอบธุรกิจ
บริษัทฯเริ่มประกอบธุรกิจตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2520 ในการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สิ่งทอ โดยผ่านกระบวนการผลิตที่ครบวงจรตั้งแต่ปั่นด้าย ทอผ้า ฟอกย้อมและตกแต่งสำเร็จ ต่อมาเมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2537 ได้จดทะเบียนแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนจำกัด โดยมีบริษัท สหยูเนี่ยน จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทที่จดทะเบียนจัดตั้งในประเทศไทยเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่
เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2551 บริษัทฯ ได้ปรับลดกระบวนการผลิต โดยหยุดกระบวนการฟอกย้อมและตกแต่งสำเร็จ และนำทรัพย์สินในส่วนของโรงงานฟอกย้อมไปร่วมลงทุนกับ Ten Cate Advanced Textiles BV จัดตั้งบริษัท เทนคาเต้-ยูเนี่ยนโปรเทคทีฟแฟบบริคเอเชีย จำกัด (TCUA) ดำเนินธุรกิจผลิตผ้าป้องกันภัยและอันตรายจากการทำงาน ปัจจุบัน TCUA ได้จดทะเบียนเลิกกิจการกับกระทรวงพาณิชย์เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2556 และอยู่ระหว่างการชำระบัญชี
เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2563 บริษัทฯ ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้ทราบถึงมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทยูเนี่ยนอุตสาหกรรมสิ่งทอ จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 12/2563 เรื่องการหยุดดำเนินธุรกิจสิ่งทอและสรรหาธุรกิจใหม่
หลังจากนั้นบริษัทฯได้แจ้งแผนการดำเนินการหยุดประกอบธุรกิจสิ่งทอและการสรรหาธุรกิจใหม่ รวมทั้งแจ้งความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าวต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นระยะๆ เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2564 บริษัทฯ ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้ทราบถึงสถานการณ์ดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ว่า ตามที่บริษัทฯ ได้เคยแจ้งสารสนเทศเกี่ยวกับการหยุดประกอบธุรกิจการผลิตสิ่งทอทั้งหมดตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564 โดยบริษัทฯ คาดว่าจะขายและส่งมอบสินค้าให้กับลูกค้าเสร็จสิ้นภายในเดือนกันยายน 2564 หลังจากนั้น บริษัทฯจะไม่มีรายได้จากการประกอบธุรกิจหลัก จะมีเพียงรายได้ค่าเช่าและรายได้เงินปันผลซึ่งไม่ใช่รายได้จากการดำเนินงานของธุรกิจหลัก รวมถึงจะขายทรัพย์สินในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการผลิตสิ่งทอให้เสร็จสิ้นต่อไป
เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2564 บริษัทฯ ได้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทฯ จากการเป็น บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยโดยสมัครใจ ทั้งนี้ บริษัท สหยูเนี่ยน จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ดำเนินเรื่องทำคำขอเสนอซื้อหลักทรัพย์ (แบบ 247-4) ประกอบกับความเห็นของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ และความเห็นของกิจการ (แบบ 250-2) ส่งให้ผู้ถือหุ้นทุกรายแล้ว อนึ่ง ระยะเวลาการแสดงเจตนาขายหลักทรัพย์ของผู้ถือหุ้นอยู่ระหว่างวันที่
28 ธันวาคม 2564 ถึงวันที่ 3 มีนาคม 2565 และชำระราคาดังกล่าวในวันที่ 7 มีนาคม 2565
เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2565 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สั่งเพิกถอนหุ้นสามัญของบริษัทฯ จากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน
นาง
ชฎาพร เจียมสกุลทิพย์
เลขานุการบริษัท
หลักทรัพย์บริษัท
บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 600 ล้านบาท เรียกชำระแล้ว 600 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 45 ล้านหุ้น หุ้นบุริมสิทธิ 15 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นๆละ 10 บาท
สภาพและบุริมสิทธิแห่งหุ้นบุริมสิทธิ มีดังนี้
- ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิได้รับเงินปันผลก่อนผู้ถือหุ้นสามัญ
- ให้ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิมีสิทธิได้รับเงินปันผล ในอัตราร้อยละ 14 ต่อปี โดยให้ได้รับสิทธิตั้งแต่รอบปีบัญชี 2529 เป็นต้นไป
- ปีใดที่บริษัทฯ ไม่สามารถจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิได้หรือจ่ายได้ไม่เต็มตามสิทธิ ให้สะสมเงินปันผลที่พึงจะได้รับหรือในส่วนที่ได้รับไม่เต็มตามสิทธิในแต่ละปีได้เป็นระยะเวลาไม่เกิน 7 ปี
- ในกรณีที่ผู้ถือหุ้นสามัญได้รับอัตราเงินปันผลเกินกว่าร้อยละ 14 ต่อปี ให้ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิมีสิทธิที่จะได้รับเงินปันผลในส่วนที่เกินกว่าร้อยละ 14 ต่อปี ด้วย โดยให้ได้รับเท่ากับผู้ถือหุ้นสามัญ
- ในกรณีที่บริษัทฯ เลิกกิจการให้ผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิมีสิทธิได้รับเงินค่าหุ้นคืนก่อนผู้ถือหุ้นสามัญ
- นอกเหนือจากสิทธิที่ได้ระบุไว้ข้างต้นแล้ว ผู้ถือหุ้นสามัญและผู้ถือหุ้นบุริมสิทธิมีสิทธิและหน้าที่เท่าเทียมกันทุกประการ
รายชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 10 รายแรก ณ วันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นครั้งล่าสุด วันที่ 28 มีนาคม 2566
หมายเหตุ กลุ่มดารกานนท์ ซึ่งประกอบธุรกิจหลักคือการลงทุนเป็นผู้ถือหุ้นที่แท้จริงของผู้ถือหุ้นลำดับ 1.2 และ 1.3
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ไม่มีข้อตกลงระหว่างกันในเรื่องที่มีผลกระทบต่อการออกและเสนอขายหลักทรัพย์หรือการบริหารงานของบริษัทฯ
พันธกิจ
-
ดำเนินธุรกิจด้านสิ่งทอให้ได้ผลตอบแทนที่น่าพอใจ และเพิ่มรายได้ให้ธุรกิจ จากทรัพยากรที่มีอยู่
-
สร้างความสัมพันธ์อันดีต่อผู้มีส่วนได้เสีย เพื่อเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกัน
-
เอาใจใส่ จริงใจรับผิดชอบ และตอบสนองความต้องการต่อลูกค้าให้ดีที่สุด ช่วยรักษาความลับทางธุรกิจ
-
สร้างความสัมพันธ์อันดีและสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า
-
ปฏิบัติต่อพนักงานอย่างเท่าเทียมกัน เป็นธรรมและให้ผลตอบแทนที่เหมาะสม รวมทั้งสนับสนุนการฝึกอบรมและพัฒนาขีดความสามารถการทำงานให้พนักงานอย่างต่อเนื่อง
-
มีปณิธานอย่างแน่วแน่ในการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม โดยจะไม่เกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน และปกป้องสิ่งแวดล้อมอันอาจเกิดจากการดำเนินธุรกิจ ภายใต้มาตรฐานสากล ระเบียบข้อบังคับของทางราชการ และเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมของชุมชนและสังคม
หมวดหมู่รอง
คณะกรรมการบริษัท
คณะกรรมการบริษัท
การประกอบธุรกิจ
ลักษณะการประกอบธุรกิจ
บริษัทฯ ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายผ้าทอตามคำสั่งซื้อของลูกค้า โดยผ่านกระบวนการปั่นด้าย และกระบวนการทอผ้า บริษัทฯ อาจมีรายได้จากการให้บริการปั่นด้าย และ/หรือทอผ้า โดยใช้วัตถุดิบจากผู้ว่าจ้าง
ลักษณะของผลิตภัณฑ์หรือบริการ
ผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทฯ คือ ผ้าทอ โดยมีทั้งผ้าฝ้าย 100% ผ้าฝ้ายผสมโพลีเอสเตอร์ หรือใยสังเคราะห์อื่นๆ ที่มีคุณลักษณะเฉพาะสำหรับนำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตผ้า Workwear และผ้าที่ใช้ในอุตสาหกรรมอื่น บริษัทฯ มีบริการรับผลิตเส้นด้าย และ/หรือทอผ้า โดยใช้วัตถุดิบของผู้จ้าง
การตลาดและการแข่งขัน
การทำการตลาดของผลิตภัณฑ์และบริการที่สำคัญ
• บริษัทฯ มีนโยบายการตลาดโดยมุ่งเน้นลูกค้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศที่สินค้ามี เครื่องหมายการค้าเป็นที่รู้จักในระดับนานาประเทศ
• ในปี 2563 บริษัทจำหน่ายสินค้าโดยตรงให้กับลูกค้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศ มีสัดส่วนมูลค่าการขายในประเทศ และต่างประเทศคิดเป็นร้อยละ 15 และ 85
• บริษัทฯ มีลูกค้าหลักทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวม 10 ราย โดยลูกค้าต่างประเทศได้แก่ญี่ปุ่น อังกฤษ และอิตาลี
• ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา บริษัทฯมีรายได้จากลูกค้า 2 รายที่เกิน 30% ของยอดซื้อรวม แต่บริษัทฯไม่ได้พึ่งพิงลูกค้ารายใดรายหนึ่งที่จะมีผลต่อความอยู่รอดของบริษัทฯ
สภาพการแข่งขัน
• ปี 2563 ภาวะอุตสาหกรรมสิ่งทอกลุ่มเส้นใยสิ่งทอผ้าผืนยังคงหดตัวที่เป็นผลมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจและการเงินโลก การเจรจาข้อตกลงทางการค้าระหว่างอังกฤษกับ EU รวมถึงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา (Covid-19) ซึ่งเริ่มต้นขึ้นในเดือนธันวาคม 2562
• แนวโน้มภาวะอุตสาหกรรมสิ่งทอคาดว่ายังคงชะลอตัว เนื่องจากยังคงประสบในปัญหาหลายด้าน อาทิเช่น มาตราการกีดกันทางการค้าในรูปแบบต่างๆ สถานการณ์เศรษฐกิจทั้งภายในประเทศและของประเทศคู่ค้า ตลอดจนสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ที่ได้ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินชีวิต ทำให้ความต้องการหรือพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ถึงแม้ว่าจะมีการผ่อนคลายการ lockdown และเริ่มมีการใช้วัคซีนป้องกัน โควิด-19 แต่ยังคงมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น
• บริษัทฯมีคู่แข่ง 12 ราย แบ่งเป็นในประเทศ 6 ราย และต่างประเทศ 6 ราย
• บริษัทปรับลดกำลังการผลิตผ้าทออยู่ที่ประมาณ 1 ล้านเมตรต่อเดือน เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า การขาดแคลนแรงงาน และลดค่าใช้จ่ายการบำรุงรักษาเครื่องจักรที่เหลือจากการผลิตให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
• สภาพการแข่งขันในอนาคต ยังคงให้ความสำคัญด้านราคา และรวมถึงการปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าให้มากขึ้น
หน้าที่ 2 จาก 3